Thursday, December 6, 2007

Modified PING G10



ผลทดสอบ Driver Ping G 10 เหตุผลที่เลือก Ping G 10 นั้น เพราะ โดยพื้นฐานของหัว Driver ของ PING นั้น เป็นหัวที่มีรูปทรง สวย คือมีขนาด ที่สมส่วน เเละมีมิตี ที่ จรดเเล้วรู้สึก ว่า ตีง่าย หน้าไม้ หรือ Face Angle ก็ไม่ปิดมาก เสียง Impact ของ รุ่น G 10 นี้ ได้ พัฒนาให้ดีขึ้น กว่า G 5 โดยเสียงอิมเเพค จะโปร่ง เเละเเน่นมากกว่า G 5 ที่ตีเเล้ว ที่รู้สึกว่า เสียงปะทะ จะเเน่น ก็ไม่เชิง จะใสก็ไม่ใช้ อะไรทำนองนั้น
อีกอย่างที่เลือก หัว Ping G 10 นั้น เพราะตัวหัวนั้น มี น้ำหนัก ที่ค่อนข้างเบา คือ หนัก เเค่ 195 Gram ในขณะที่หัว Driver ยี่ห้อ อื่น ๆ จะหนัก ประมาณ 198-204 gram ทำให้การ เปลี่ยนก้าน เข้าไปนั้น มีอุปสรรคบ้าง เช่น ในการเเต่งน้ำหนัก หรือ การทำความยาว เพราะ หากหัว Driver ที่นำมา โมดิฟายนั้น มีน้ำหนักหัวมากกว่า 200 Gram เเล้ว จะไม่สามารถทำ Swing Weight เเละ ความยาวของไม้ให้ได้ ตามต้องการ หรือ กรณี สำหรับ นักกอล์ฟ ที่มี สปีดที่ช้า หน่อย เช่น 80-90 Mph หัว Driver ที่หนักกว่า 200 Gram ก็จะยาก เเก่การปรับเเต่งไม้ให้มี น้ำหนักรวม หรือ Total Weight ที่น้อย กว่า 280-290 Gram ถึงเเม้จะใช้ ก้านที่เบาเเละกริปที่เบาเเล้วก็ตาม
จาก สเปค G 10 loft 9 ก้าน Graffaloy Prolaunch Red เดิม ๆ จากโรงงานนั้น สามารถวัด Total weight ได้ 315 Gram มี Swing Weight อยู่ที่ D 2 เเละ shaft Frequency ของก้าน อยู่ที่ 260 cpm ซึ่งถือว่า เเข็ง มาก จะเหมาะสำหรับ นักกอล์ฟสปีด 105 mph ++ เท่านั้น
ลองตี G 10 ที่ติดก้าน Grafalloy Prolaunch Red Flex S เดิม ๆ จากโรงงาน ระยะจากที่เคยไดรว์ได้ระยะ 265-275 หลา กลับ หายไป เกือบ 15-20 หลา โดยเหลือเเค่ 250-260 หลา เท่านั้น เเสดงว่า ก้านเดิมนั้น เเข็งเกินไป สำหรับ สปีด 100 mph อย่างผู้เขียน เเต่ก็ยังมีข้อดีที่ว่า ตี ได้ ตรงมาก เรียกว่า อยู่ Fairway เป็น ส่วนใหญ่ เเต่ระยะไม่ได้ ตาม ที่ต้องการ เพราะ ก้าน ค่อนข้างเเข็ง เเละ ทื่อมาก สุดท้ายการโมดิฟาย G 10 จึงเกิดขึ้น

ทั้ง 3 ก้าน โหด ๆ ทั้งนั้น

Model
Aldila Photo By you 60 S
Torque 3.4
Mid Kick
Weight 65
CPM 252

Graphite Design Tour AD
Quattro Tech 65 Flex X
Torque 3.5
Low Kick
Weight 67
CPM 260

Mitsubishi Daimana
White Board 63 S
Torque 3.1
High Kick
Weight 62
CPM 248

ผลการทดสอบ ว่ากันไปตาม เนื้อผ้า :
ก้าน Daimana White Board 63 S ใน G 10 ถือว่าออกมากลาง ๆ คือ ตีง่าย ฟิลลิ่งนุ่ม เเต่ รู้สึกว่า ก้านจะค่อนข้างอ่อน เเละ เร่งมากไม่ได้ หากเร่งเกินไป กลุ่มลูกจะเริ่มกระจาย เเละผิดพลาดได้ง่าย วิถีค่อนข้างพุ่ง เเต่ก็ไม่เตี้ยมาก ฟิลลิ่งค่อนข้างนุ่มสุด ๆ ระยะ ถือว่าดีพอประมาณ ฟิลลิ่งตอนกระทบ ลูกกอล์ฟติดที่หน้าไม้นานดี Tour Ad Quatrro Tech 65 X ก้านตัวนี้ เข้ากับ G 10 ได้อย่างดี เป็นปี่เป็น ขลุ่ย โดย ดูจากฟิลลิ่งเวลา ปะทะลูก สปินที่ออกจากหน้าไม้ค่อนข้างน้อย วิถี ที่ออกไป จะโค้งสวยที่สุด ปลายลูกมีติด ดรอว์เล็กน้อย ไม่เหมือน Daimana white ที่ตรงเป็นตรง ฟิลลิ่ง Quatrro tech จะไม่นุ่มเท่า Daimana เเต่จะหนึบเเละตีสนุกกว่าหน่อย เร่งได้เรื่อย ๆ เเละเร่งได้มากพอสมควร ระยะ Confirmed ว่าไกลกว่า Daimana เเน่นอน
ส่วน Aldila Photo By you 60 S นั้น ถือว่าเป็น อาวุธสงคราม เพราะ กินเเรง ก้านตึงมาก ขนาด Cpm เท่า ๆ กัน เเต่ หากไม่ออกเเรงใส่หน่อย ก็จะตีไม่ไป เรียกว่า กินเเรง กว่าก้าน Tour Ad เเเละ Daimana สปิน ที่ออกจากหน้าไม้ไปถือว่าน้อย เเต่เเปลกที่ วิถีค่อนข้างโด่งที่สุด เเละฟิลลิ่งตอนปะทะลูกก็กระด้างมากที่สุด ระยะ ถือว่า พอ ๆ กับ Daimana เเต่เป็นรอง Tour AD เล็กน้อยในสปีดที่เท่า ๆ กัน
ดยสรุปเเล้ว ฟิลลิ่งอาจจะบอกได้ ชัดเจนว่าก้าน เกรด พรีเมี่ยม จาก ญี่ปุ่น ตีเเล้ว สบายมือ เเละ สบาย ร่างกาย กว่าก้าน จาก อเมริกาเยอะ เเถม ฟิลลิ่งยังคนละเรื่อง เเต่ถ้าคนที่มีสปีดที่เร็วจริงๆ ลงไม้เเบบโหด ๆ นั้น G 10 + Photo By you น่าจะไปได้ ดีที่สุด เเต่สำหรับ มือกลางๆ สปีด ปานกลางถึงเร็ว ก็น่าจะลงตัวที่ก้าน พรีเมี่ยมจาก ญี่ปุ่น มากกว่า สำหรับ ผู้เขียนเองเเล้ว ลงตัวกับ ก้าน Tour AD Quattro tech 65 Flex X มากที่สุด หากฟังเเค่ Flex X เเล้วก็ดูน่ากลัว เเต่อยากให้ลองตี เพราะ ตีเเล้วเเทบไม่รู้ว่าเป็นก้าน X เลย เพรา ะทั้ง นุ่มเเละ เเน่น ตีสบาย ๆ ก็ไกลกว่าก้าน เดิม จากโรงงาน เเถม ฟิลลิ่งดีขึ้นเยอะ

1 comment:

PammyTravel said...

เข้ามาดูแล้วนะคะ ทำได้ไงคะเนี่ยเก่งจริงๆ น่าภูมิใจสุดๆ เอาใจช่วยนะคะ